แนะนำ 6 วิธีการรักษาหลุมสิวรอยดำรอยแดง ด้วยคลินิกรักษาหลุมสิว เจ็บตัวน้อยแต่ได้ผลดี

ปัญหาหลุมสิวบนผิวหน้าของเรา ปัญหาใหญ่ต้องใช้เวลาในการรักษา เนื่องจากใบหน้าเป็นจุดที่สังเกตได้ง่ายและผิวบอบบางเป็นพิเศษ  ระยะเวลาในการรักษาช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับความรุนแรง การเข้ารับการรักษากับคลินิกรักษาหลุมสิวเป็นทางเลือกที่ดี ว่าแต่หลุมสิวมีวิธีการรักษาอย่างไรบ้าง ต้องมาดู ก่อนอื่นเลยเรามาทำความรู้จักกับปัญหาของหลุมสิกันดีกว่า

ปัญหาหลุมสิว เกิดขึ้นจากอะไรมีวิธี จัดการอย่างไร

สำหรับใครที่ต้องการคำแนะนำที่ดี เกี่ยวกับการจัดการหลุมสิว ควรเข้าไปปรึกษาคลินิกรักษาหลุมสิว และเข้ารับการรักษาอย่างจริงจังเพื่อผลลัพธ์ที่ดี ปัญหาหลุมสิวที่เกิดขึ้นบริเวณใบหน้า เกิดจากหลายสาเหตุ อาจเกิดขึ้นจากการสะสมของสิ่งสกปรกที่รูขุมขนบริเวณใบหน้า หรือเกิดจากสิวอักเสบ ที่มาจากเชื้อแบคทีเรียเป็นหนองภายใน ทำให้ผิวถูกทำลายจนเป็นโพรง เมื่อเกิดการอักเสบการรักษาตัวเองของใบหน้ามีการสร้างเซลล์ใหม่และพังผืดขึ้นมาเพื่อดึงรั้งโพรงเหล่านั้น ทำให้ผิวยุบตัวลงไป จึงเกิดเป็นหลุมสิวขึ้นมานั่นเอง 

ปัญหาของหลุมสิว ถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ระดับ มีอะไรบ้าง

1.การเกิดหลุมสิวในระดับเริ่มต้น (Rolling Scar)

 คลินิกรักษาหลุมสิวมีการแบ่งหลุมสิวในระดับ Rolling Scar  หรือการเกิดหลุมสิวในระดับเริ่มต้น โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการแกะสิว การแคะสิวและการเกาสิว ทำให้เกิดรอยแผลและเป็นหลุมค่อนข้างตื้นไม่ลึกมาก สามารถรักษากับคลินิกรักษาหลุมสิว เพื่อฟื้นฟูสภาพผิวหน้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง รักษาได้ง่าย เห็นผลเร็ว

2.การเกิดหลุมสิวมีความรุนแรงในระดับปานกลาง (Boxes Scar) 

หลุมสิวในระดับปานกลาง (Boxes Scar) มีลักษณะคล้ายกล่องสี่เหลี่ยมที่บริเวณผิวหน้า มีปากหลุมกว้าง มีขอบชัดเจน แต่ก้นหลุมของสิวตื้น มีความลึกโดยประมาณ  3-5 มิลลิเมตร เกิดจากการเป็นสิวอักเสบหรือการเป็นโรคอีสุกอีใส ซึ่งสามารถเข้ารับการรักษาโดยคลินิกรักษาหลุมสิว ที่มีขั้นตอนในการรักษาอย่างถูกต้องและปลอดภัย

3.การเกิดหลุมสิวมีความรุนแรงระดับสูง  (Icepick Scar)

หลุมสิวมีความรุนแรงระดับสูง  (Icepick Scar) มีลักษณะปากหลุมแคบแต่เป็นหลุมลึก สิวจะกินเนื้อไปจนถึงระดับชั้นรูขุมขน สาเหตุเกิดจากการกดสิว และการบีบสิวอุดตัน จนทำให้มีอาการสิวอักเสบ หรือสิวที่ผดขึ้นมามีการอักเสบด้วย การรักษาสิวที่มีความรุนแรงระดับสูงควรรักษากับคลินิกรักษาหลุมสิวเพราะต้องใช้วิธีการรักษายากที่สุดและใช้เวลานาน แต่มีความปลอดภัยสูงอย่างแน่นอน

แนะนำ  6 วิธีในการรักษาหลุมสิวมีอะไรบ้าง 

ในปัจจุบันเทคโนโลยีในการรักษาผิวหน้าให้มีความสวยงาม โดยเฉพาะการเกิดหลุมสิวรอยดำรอยแดง มีวิธีรักษาในแต่ละเคสอาจแต่งต่างกัน แต่สามารถเข้ารับการรักษากับคลินิกรักษาสิว จะทำให้หลุมสิวมีความรุนแรงลดน้อยลงได้ วิธีการรักษาหลุมสิว จากคลินิกรักษาสิวมีดังนี้

1.การฉีดฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็ม (Fillers injection)

การรักษาหลุมสิวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการฉีดฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็ม (Fillers injection) เพราะสามารถทำร่วมกับการรักษารอยดำรอยแดงของผิวหน้าไปพร้อมกันได้เพื่อให้เห็นผลลัพธ์และมีประสิทธิภาพได้อย่างรวดเร็ว เพราะหลังการรักษาจะทำให้เห็นผลทันที 65-70% โดยไม่ทิ้งรอยแผลและไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น

2.การรักษาด้วยเลเซอร์ (Laser)

การเลเซอร์หลุมสิว สามารถแก้ปัญหารอยดำรอยแดงบนผิวหน้า และปัญหาหลุมสิวได้เป็นอย่างดี มีให้เลือกทั้งการลอกผิวและไม่ลอกผิว ตามคำแนะนำของแพทย์คลินิกรักษาหลุมสิวว่าจะใช้เลเซอร์ประเภทใดขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง แต่เห็นผลได้ไว้

3.การรักษาด้วยคลื่นวิทยุ (Radiofrequency – RF)

การรักษาหลุมสิวด้วยคลื่นวิทยุ คล้ายๆกับการรักษาด้วยเลเซอร์ คือการปล่อยพลังงานความร้อนที่ชั้นผิวเพื่อกระตุ้นในการสร้างคอลลาเจน แต่วิธีนี้สามารถสร้างผลข้างเคียงให้กับเรา เช่น หน้าบวมแดง และต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้น แต่ก็เป็นทางเลือกในการรักษาหลุมสิวด้วยเช่นกัน

4.การใช้ยาในกลุ่มวิตามินเอ

การใช้ยาในกลุ่มวิตามินเอหรือกรดวิตามินเอเพื่อรักษาหลุมสิวรอยดำรอยแดงที่เกิดขึ้นบริเวณผิวหน้า เป็นการรักษาที่ซอฟที่สุด เพราะเป็นการรักษาในรูปแบบช่วยปรับโครงสร้างบนชั้นผิวให้เรียบเนียน และขจัดเซลล์ผิวให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น ช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยลดการอักเสบของสิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างรวดเร็วทำให้ สามารถรักษาได้ทั้งหลุมสิว รอยดำรอยแดงให้ดูตื้นขึ้นและจางลง

5.การใช้กรดลอกผิว (Chemical Peeling)

เป็นวิธีการรักษาโดยทำให้เซลล์ผิวหนังเกิดการหลุดลอก โดยใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรด จะทำให้รอยดำรอยแดงลดความเข้มข้นได้เป็นอย่างดีรวมถึงจะช่วยให้รอบหลุมสิวตื้นขึ้นอีกด้วย สามารถแบ่งความเข้มข้นรีบกัดก่อนออกเป็น 3 ระดับดังนี้

  • ระดับชั้นหนังกำพร้า ใช้กรดประเภท Trichloroacetic acid (TCA),Glycolic acid,lactic acid ,Salicylic acid
  • ระดับชั้นหนังแท้ตื้น ใช้กรดประเภท Trichloroacetic acid (TCA)
  • ระดับชั้นหนังแท้ลึก ใช้กรดประเภท Phenol

6.การกรอผิวด้วยอัญมณี (Dermabrasion)

วิธีการรักษาของคลินิกรักษาหลุมสิวสามารถรักษาหลุมสิวรอยดำและรอยแดง จากการกรอด้วยอัญมณีบนบริเวณผิวหน้า สามารถใช้ได้กับหลุมสิวในระดับเริ่มต้นและปานกลางได้ แต่ต้องใช้ความชำนาญสูง เพราะการกรอด้วยอัญมณีจะทำให้เกิดแผล เพื่อทำการผลัดเซลล์ผิวใหม่ จนทำให้รอยดำรอยแดงดูจางลง และสภาพผิวเรียบเนียนขึ้น

ทั้งหมดนี้คือ 6 วิธีเกี่ยวกับการเข้ารักษาปัญหาหลุมสิว รวมถึงรอยดำรอยแดง ควรเข้ารับการรักษาที่คลินิกรักษาหลุมสิว เพื่อประสิทธิภาพที่ดี และยังดูแลตนเองปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ถามว่านอกจาก 6 วิธีนี้แล้ว ยังมีวิธีอื่นๆ อีกไหม จริงๆ ยังมีอีกหลายวิธีในการรักษาแต่จะทำให้เราเจ็บตัวมากขึ้น เช่น การผ่าตัดรักษาหลุมสิว และการตัดพังผืด เป็นต้น 

You cannot copy content of this page