รู้ไว้ดีกว่า Filler คืออะไร ทำงานอย่างไร
Filler คือ สารเติมเต็มประเภท HA หรือ Hyaluronic Acid ช่วยเติมเต็มชั้นผิวที่เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียน เต่งตึง ดูอ่อนกว่าวัย ปัจจุบันฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อ หลายรุ่นเลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีต้องดูที่ความเหมาะสมเพราะปัญหาผิวของแต่ละคนต่างกัน การฉีด filler บนใบหน้ายังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เนื่องจากมีคุณสมบัติอุ้มน้ำจึงทำให้ผิวเปล่งปลั่งช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิคเป็นการเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติเพื่อทดแทนส่วนสำคัญของโครงสร้างผิว นั่นก็คือ ไฮยาลูรอนและคอลลาเจนที่ปกติร่างกายของเราจะสูญเสียไปเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น
Filler ฉีดจุดไหนได้บ้างไปดูกัน
การฉีดฟิลเลอร์หรือการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ผิวสามารถฉีดบริเวณใบหน้าส่วนต่างๆ ได้เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา ขมับ หน้าผาก ปากเป็นต้น ช่วยแก้ปัญหาการเกิดริ้วรอยหรือร่องลึก ทำให้ผิวดูเรียบเนียน ชุ่มฉ่ำ เต่งตึงมากขึ้น ช่วยยกกระชับใบหน้าปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้นด้วย
ฉีดฟิลเลอร์ทั้งที ยี่ห้อไหนดี จุดเด่นของ Filler แต่ละตัว
1.Restylane
filler ที่นำเข้าจากสวีเดนได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วทุกมุมโลก โดดเด่นเรื่องขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์ มั่นใจได้เพราะผ่านการรับรองจากอย. ยี่ห้อนี้ มีหลายรุ่น ที่ได้รับความนิยม มีดังนี้
Restylane Perlane Lyft
จุดเด่น
- filler เนื้อแข็งมีความคงตัวสูง
- ฉีดแล้วไม่ฟู
- คงลูกได้ดีที่สุด
- เหมาะสำหรับฉีดจมูก คาง ใต้ตา
Restylane Classic
จุดเด่น
- ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง
- ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยในระดับปานกลางถึงมาก
- เก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึก
- เหมาะกับคนผิวบาง อยู่ได้นาน 12 เดือน
Restylane Vital
จุดเด่น
- ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย
- เหมาะสำหรับการฉีดหน้าผาก ใต้ตา
- ให้ผิวเรียบเนียนและเป็นธรรมชาติอยู่ได้นาน 12 เดือน
Restylane Vital Light
จุดเด่น
- ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดมากที่สุดเจลอนุภาคขนาดเล็ก
- แก้ไขจุดที่มีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ หรือเคสผิวบาง
- เหมาะสำหรับการฉีดเก็บรายละเอียดใต้ตา ปาก ผิวชั้นตื้น
- ฟิลเลอร์รุ่นนี้อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
2. Juvederm
filler ที่นำเข้าจากประเทศอเมริกาเนื้อของฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูงทำให้อยู่ได้นาน ให้ผลลัพธ์ผิวเรียบเนียนโดดเด่นด้วยเทคโนโลยี hylacross มีความปลอดภัยผ่านการรับรองจากอย. ยี่ห้อนี้แบ่งออกเป็นหลายรุ่นที่ได้รับความนิยม เช่น
Juvederm Voluma
จุดเด่น
- ฟิลเลอร์เนื้อแข็งฟูปานกลาง
- มีความยืดหยุ่นสูง
- เหมาะสำหรับการเติมใต้ตา คาง ขมับและร่องแก้ม
- มีความเป็นธรรมชาติอยู่ได้นาน 18 เดือน
Juvederm Volift
จุดเด่น
- filler เนื้อนิ่มมีความละเอียด
- เหมาะสำหรับคนผิวบาง
- ใช้ฉีดร่องแก้มที่ไม่ลึกมาก
- เก็บรายละเอียดร่องแก้มชั้นตื้น มุมปากหรือปาก ระหว่างคิ้ว
- ฟิลเลอร์รุ่นนี้อยู่ได้นาน 12 เดือน
Juvederm Ultra Plus XC
จุดเด่น
- ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม
- ฉีดแล้วฟูมาก กักเก็บน้ำได้ดี
- เหมาะกับการฉีดบริเวณปาก ขมับและร่องแก้ม
- อยู่ได้นานถึง 12 เดือน
3.Belotero
iller ยี่ห้อนี้นำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์แน่นอนว่าผ่านการรับรองจากอย. ไทย ปลอดภัยมีหลายรุ่นให้เลือก จุดเด่นคือกลุ่มเนื้อเจลจะมีความคงตัวมากสามารถใช้ฉีดเนื้อเยื่อ ฉีดเสริมกระดูกหรือผิวหนังที่ยุบตัวตามวัยได้ รุ่นที่ได้รับความนิยมคือ
Belotero Volume
จุดเด่น
- ฟิลเลอร์เนื้อแข็งยืดหยุ่นและคงตัว
- เหมาะกับการฉีดเสริมกระดูก ใต้ตาชั้นลึก
- ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้ปากเหมาะกับปากสายฝอ
- ฟิลเลอร์รุ่นนี้สามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน
Belotero Intense
จุดเด่น
- ฟิลเลอร์เนื้อแข็งมีความยืดหยุ่นสูง
- เหมาะกับการแก้ปัญหาร่องลึกมากๆ
- ใช้ฉีดที่ร่องแก้ม เติมแก้มตอบ เสริมคาง
- สามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน
Belotero Soft
จุดเด่น
- filler เนื้อละเอียดโมเลกุลขนาดเล็ก
- สามารถเก็บรายละเอียดได้ดี
- แก้ปัญหาริ้วรอยบนผิวชั้นนอก ใต้ตาไม่เรียบเนียน
- สามารถอยู่ได้นาน 6-12 เดือน
Definisse Core
จุดเด่น
- ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง
- เหมาะกับการเสริมกระดูกปรับรูปหน้า
- เติม mid-face คาง กรอบหน้า
- รุ่นนี้สามารถอยู่ได้นานถึง 18 เดือน
การเตรียมตัวก่อน และ การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรศึกษาหาข้อมูลโดยเฉพาะเรื่องของการเตรียมตัวก่อนฉีดและการดูแลตัวเองหลังฉีด เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นและทางที่ดีเราแนะนำให้ปรึกษาแพทย์โดยตรงปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ควรหลีกเลี่ยงอะไรบ้างก่อนฉีดฟิลเลอร์
- งดการทานยาหรือวิตามิน
- งดใช้สกินแคร์ชนิดผลัดเซลล์ผิว
- ควรหลีกเลี่ยงการทำหัตถการเกี่ยวกับใบหน้าไม่ว่าจะเป็นการนวดหน้าหรือการเลเซอร์
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนฉีด 3 วัน
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การออกกำลังกายอย่างหนัก
- หลีกเลี่ยงการกำจัดขนบริเวณใบหน้าก่อนฉีดฟิลเลอร์ 2 วันไม่ว่าจะเป็นการโกนขน การแว๊กขนหรือใช้ครีมกำจัดขน
การดูแลตัวเองหลังจากฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือการกดทับในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- ประคบน้ำแข็งหลังจากฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 6 ชั่วโมง
- ไม่ควรล้างหน้ารุนแรงหรือใช้น้ำร้อนจัด หลีกเลี่ยงสกินแคร์ผลัดเซลล์ผิว
- รับประทานยาแก้ปวดหากมีอาการปวดสามารถทานยาพาราเซตามอลได้
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทุกชนิดเพื่อป้องกันอาการบวมแดงหรือการอักเสบ
- ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด งดทำกิจกรรมกลางแจ้งโดยเฉพาะช่วง 13.00-15:00 น
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ งดทานอาหารรสเผ็ดหรืออาหารรสจัด ดื่มน้ำให้เพียงพอ
หวังว่าทุกคนคงหายสงสัยแล้วว่าฟิลเลอร์คืออะไร ทำงานอย่างไร ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ทั้ง 3 ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เราเอามาแนะนำ มีหลายรุ่น ส่วนเลือกยี่ห้อไหนหรือรุ่นไหนให้ดูที่ความเหมาะสม เพราะปัญหาบนใบหน้าของแต่ละคนแตกต่างกัน รวมถึงสภาพของผิวก็ต่างกันด้วย ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังฉีด filler นั้นสำคัญมาก ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและปลอดภัยต่อตัวคุณเอง