ไขความลับต้นเหตุของการเกิดฝ้า พร้อมการดูแลปัญหาฝ้าบนใบหน้า
หลายคนคงกำลังประสบกับปัญหาผิวที่มีรอยปื้นสีน้ำตาลบริเวณแก้มสองข้าง เมื่อไหร่ที่ส่องกระจก ก็คงเสียเซลฟ์สุดๆ ซึ่งเจ้าปัญหานั้นก็คือ “ฝ้า” ปัญหาที่ทำให้หมดความมั่นใจ วันนี้มาดามบีลีฟขอพาคุณไปไขความลับต้นเหตุของการเกิดฝ้า พร้อมการดูแลปัญหานี้มาฝากทุกคนกันค่ะ
ฝ้าคืออะไร ?
ฝ้า (Melasma) มีลักษณะเป็นปื้นๆ พื้นที่กว้างหรือเข้มเป็นกระจุก มีสีน้ำตาลอ่อนไปถึงสีเข้มกว่าสีผิวของเรา มีทั้งชนิดตื้นและชนิดลึก มีหลายขนาดตั้งแต่เล็กไปจนถึงใหญ่ มักพบบ่อยในบริเวณที่มีโอกาสสัมผัสกับแสงแดด เช่น หน้าผาก, โหนกแก้ม, จมูก, หนือริมฝีปาก หน้าผาก หรือคาง และมักเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย เพราะในบางครั้งอาจจะมีสาเหตุมาจากพันธุกรรมร่วมด้วย
ฝ้าเกิดจากอะไร ?
ฝ้าเกิดจากการที่เซลล์สร้างเม็ดสีใต้ผิวหนังหรือเมลานิน (Melanin) ผลิตเม็ดสีออกมามากกว่าปกติ เม็ดสีที่ถูกลำเลียงสู่ผิวชั้นบนสุด (ชั้นหนังกำพร้า) มีลักษณะเข้มและขอบชัด เรียกว่า ฝ้าตื้น ส่วนเม็ดสีที่อยู่ใต้ต่อชั้นหนังกำพร้าลงมา และมีบางส่วนที่ตกค้างอยู่ในชั้นหนังแท้ มักจะมีสีอ่อนกว่า และขอบไม่ชัด เรียกว่า ฝ้าลึก แต่ด้วยปัจจัยบางอย่างอาจกระตุ้นให้เม็ดสีถูกสร้างมากขึ้นจนอาจทำให้เกิดฝ้า ซึ่งความรุนแรงของการสร้างเม็ดสีอาจเกิดได้หลายระดับ ตั้งแต่ผิวหนังเกิดรอยสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงเทา
ปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้า ?
- แสงแดด เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของการเกิดฝ้า ไม่ว่าจะเป็น UVA/UVB และ Visible Light เมื่อผิวถูกกระตุ้นด้วยแสงแดด ทำให้ร่างกายสร้างเม็ดสีเมลานิน ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกายเพิ่มขึ้น จนทำให้เกิดฝ้านั้นเอง
- อายุและเพศ โดยมักพบในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30 – 40 ปี และพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
- ฮอร์โมน ซึ่งมีผลทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานมากขึ้น เช่น การตั้งครรภ์ อย่างไรก็ดี ฝ้าจะดีขึ้นตามลำดับหลังการคลอดบุตร แต่ก็มีคนไข้บางส่วนที่ฝ้าอาจติดถาวรได้, วัยหมดประจำเดือน หรือกลุ่มที่รับประทานยาคุมกำเนิด
- พันธุกรรม เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องต่อการเกิดฝ้าได้ถึง 50 % เลยทีเดียว
- ฝ้าจากความเครียด โดยเมื่อเราทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอจะมี ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง ส่งผลทำให้ฝ้าดูชัดขึ้น
- การแพ้ส่วนผสมในเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของไฮโดรควินโนนหรือสารสกัดจากรก (Placental Extract) อาจทำให้เกิดการกระตุ้นการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสีในชั้นผิวหนัง จนทำให้เกิดฝ้าได้
ปัจจัยเหล่านี้คือสาเหตุที่ก่อให้เกิดฝ้า โดยทั่วไปแล้ว ฝ้าตื้นนั้นเกิดได้ง่าย จึงรักษาได้ง่ายกว่าฝ้าลึก เมื่อเราทราบถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้าแล้ว ก็ขอให้พยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะให้เกิดฝ้า หรือทำให้ฝ้าเข้มกันด้วยนะคะ
วิธีรักษาฝ้า ?
- การรักษาฝ้าด้วยทรีตเมนต์ อาจจะใช้เวลามากกว่าการเลเซอร์ แต่เป็นวิธีที่ปลอดภัย แก้ตรงจุดและไม่เกิดผลข้างเคียง [คลิกอ่านรายละเอียด Perfect Bright Program ]
- การรักษาฝ้าด้วย Laser แสงเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพในการรักษาฝ้า เช่น Q-Switched Laser Program จะช่วยปรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ช่วยให้ฝ้าหายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการรักษาด้วยเลเซอร์นั้น เป็นการรักษาโดยการยิงลงไปในบริเวณที่เกิดฝ้าโดยตรงและทำลายเซลล์สร้างเม็ดสีด้วยความร้อน นอกเหนือจากนี้ ยังเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิวหน้าในระหว่างการรักษาอีกด้วย
การรักษาด้วยเลเซอร์เพื่อรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำนั้น สามารถทำให้ฝ้าจางลงได้อย่างรวดเร็ว แต่จะไม่หายขาด 100% หากผิวยังต้องเผชิญกับปัจจัยที่ทำให่้เกิด ต้องเข้ารับบริการอย่างสม่ำเสมอตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด [คลิกอ่านรายละเอียดบริการ Q-Switched Laser Program ] - การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสม นั้นคือ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสที่กระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสี ซึ่งจะเป็นส่วนที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฝ้า และช่วยให้ฝ้าดูจางลงได้
- การรักษาฝ้าด้วยยา ได้แก่ กลุ่มกรดวิตามินเอหรือเรตินอยด์ (Topical Retinoids/Retinoic Acid), กรดอะซีลาอิก (Azelaic Acid), คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids), กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) หรือกรดโคจิก (Kojic Acid) จะได้ผลดีกับผู้ที่เป็นฝ้าตื้น แต่ต้องใช้เวลาตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไปเป็นการช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี ส่วนใหญ่จะทำให้ฝ้าจางลง
- การรักษาฝ้าด้วยการผลัดเซลล์ผิว เป็นการใช้สารที่มีความเป็นกรดหรือสารฟอกขาว เช่น กรดไกลโคลิก หรือกรดซาลิซิลิก ช่วยเร่งให้ผิวเกิดการผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอก แต่ก็มีข้อควรระวังนะคะ นั้นคือ เมื่อใช้ในปริมาณมากหรือใช้เป็นระยะเวลานานโดยไม่ปรึกษาแพทย์ อาจทำให้เกิดการระคายเคือง หรือเกิดฝ้าถาวรได้
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการดูแลรักษาฝ้าแบบไหนที่สามารถยับยั้งการเกิดฝ้าที่มีสาเหตุการเกิดจากพันธุกรรมได้ ทำได้เพียงแค่ลดเลือนให้จางลงเท่านั้น กรณีฝ้าที่เกิดขึ้นจากแสงแดด เราสามารถดูแลและป้องกันได้ในเบื้องต้น ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถปกป้องผิว และใช้ครีมกันแดดเป็นประจำเมื่อต้องเผชิญแสงแดดอยู่เสมอนะคะ
ที่ Believe Clinic ทุกสาขา มีแพทย์ผู้ชำนาญการ มากประสบการณ์ในการดูแลปัญหาผิวหน้าโดยเฉพาะ หากคุณลูกค้าสนใจบริการ สามารถนัดหมาย จองคิว เพื่อปรึกษากับแพทย์ผู้ชำนาญการของเรา ได้ผ่านทางช่องทาง LINE ID : @Believeclinic (มี @ นำหน้า) หรือคลิก https://lin.ee/1bpNmty เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมิน วิเคราะห์ และแนะนำหัตถการได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัย คุ้มค่ามากที่สุดนะคะ และทุกท่านสามารถรับชมรีวิวต่างๆ ของทางคลินิกได้ผ่านทางแฟนเพจ https://www.facebook.com/Believeclinic888 นะคะ